ในการซักผ้าอุตสาหกรรมนั้น มักมีการใช้เคมีภัณฑ์หลายประเภทผสมกันเพื่อให้ได้ภาพตามต้องการ อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์การที่ผ่านมา หลายคนมีปัญหากับการใช้น้ำยาฟอกขาว อาทิ ผ้าสีด่าง หรือเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อที่เป็นแบบออกซิเจน (Oxygen) หรือ แบบคลอรีน (Chlorine) เป็นต้น วันนี้จึงขออธิบายว่าน้ำยาฟอกขาวแต่ละอย่างแตกต่างกันอย่างไร และเพราะเหตุใดบางครั้งผ้าจึงเกิดรอยด่างจากน้ำยาฟอกขาว
น้ำยาฟอกขาวหลักๆ ที่ใช้กันในปัจจุบันคือ 1. น้ำยาฟอกขาวชนิดคลอรีน และ 2. ชนิดออกซิเจน
น้ำยาฟอกขาวชนิดคลอรีน
น้ำยาฟอกขาวชนิดคลอรีน จะประกอบด้วยคลอรีน ซึ่งสารฟอกขาวชนิดแรกที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น เพื่อใช้ในการฟอกขาวสิ่งสกปรกต่างๆ ตั้งแต่ล้างห้องน้ำจนถึงซักเสื้อผ้า สารฟอกขาวคลอรีนนั้นจะมีกลิ่นเฉพาะตัว และมีคุณสมบัติทำความสะอาดที่แรง และกัดกร่อนได้ดี ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ผ้าสีด่าง หากใช้สารฟอกขาวชนิดคลอรีนในการซัก เนื่องจากคลอรีนจะไปกัดสีผ้าของผ้าสี ทำให้ผ้า ณ บริเวณนั้นๆ กลายเป็นสีขาว (ปกติจะใช้คลอรีนในความเข้มข้นน้อย เนื่องจากเป็นสารที่มีความอันตรายสูง)
ด้วยเหตุที่สารฟอกขาวคลอรีนสามารถใช้ได้เฉพาะผ้าสีขาว และมีกลิ่นที่รุนแรง ทำให้ได้รับความนิยมน้อยลงในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีคนใช้งานอยู่ เนื่องจากมีราคาที่ต่ำกว่าสารซักฟอกชนิดออกซิเจน
น้ำยาฟอกขาวชนิดออกซิเจน
น้ำยาฟอกขาวชนิดนี้จะปรกอบด้วยสารฟอกขาวออกซิเจน ซึ่งสารฟอกขาวชนิดนี้ เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถใช้ได้กับผ้าทุกชนิด และยังเพิ่มค่าออกซิเจนให้กับน้ำในกระบวนการซักผ้า นอกจากนี้สารฟอกขาวชนิดนี้ยังสามารถเก็บไว้ได้นานกว่าสารฟอกขาวชนิดคลอรีน และไม่มีกลิ่นที่ฉุนเหมือนชนิดคลอรีน
#สารฟอกขาว #ซักผ้าอุตสาหกรรม #ผ้าสีด่าง
Comments