ก่อนที่จะกล่าวถึงผลของน้ำกระด้างที่มีต่อการซักผ้าอุตสาหกรรม ขอกล่าวถึงน้ำกระด้างก่อนเบื้องต้นว่ามันคืออะไร
น้ำกระด้างคือ น้ำที่มีแคลเซียมไอออน แมกนีเซียมไอออน ละลายอยู่ เช่น น้ำคลอง น้ำบ่อ น้ำประปา น้ำบาดาล น้ำทะเล เป็นต้น
ซึ่งสาเหตุที่น้ำมีความกระด้าง เกิดจากน้ำฝนที่เป็นกรดอ่อน(กรดคาร์บอนิก)เนื่องจากมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ละลายอยู่ เมื่อซึมลงใต้ดินผ่านชั้นดินซึ่งมีการสลายตัวของสารอินทรีย์ จะทำให้มีปริมาณกรดคาร์บอนิกมากขึ้น ซึ่งเมื่อน้ำที่ซึมผ่านชั้นดิน หรือสัมผัสกับชั้นหินโดยเฉพาะหินปูนซึ่งมีองค์ประกอบหลัก คือ แคลเซียมคาร์บอเนต และ แมกนีเซียมคาร์บอเนต น้ำจะสามารถละลายองค์ประกอบหลักเหล่านี้ได้ทำให้ปริมาณแคลเซียมไอออน และ แมกนีเซียมไอออนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นโดยทั่วไปน้ำบนผิวดิน เช่น แม่น้ำ อ่างเก็บน้ำ จะมีความกระด้างน้อยกว่าน้ำใต้ดินหรือน้ำบาดาล
ผลของการที่ใช้น้ำกระด้างในการซักผ้า ส่วนนึงคือการที่สิ้นเปลืองน้ำยาซักผ้า เนื่องจากน้ำยาซักผ้าทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพต่อคราบสกปรกที่อยู่บนเสื้อผ้าได้เท่าที่ควร เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้น้ำยาซักผ้าในน้ำทั่วไป
ซึ่งเกิดจากการที่น้ำยาซักผ้าบางส่วนไปกำจัด แคลเซียมคาร์บอเนต หรือแมกนีเซียมคาร์บอเนต ทำให้มีน้ำยาซักผ้าที่ไปกำจัดคราบสกปรกที่อยู่บนเสื้อผ้าน้อยลง
วิธีหนึ่งในการลดความกระด้างของน้ำคือการใช้เครื่องกรองเรซิ่น ซึ่งเม็ดเรซิ่นในเครื่องกรองจะดักจับแร่ธาตุภายในน้ำแล้วกรองออก และจากนั้นให้นำเอาตัวกรองออกมาล้างโดยใช้น้ำเกลือ เพื่อให้น้ำเกลือนั้นไปจับผลึกแร่ธาตุออกมาจากเรซิ่น (ซึ่งความถี่ในการเอาตัวกรองออกมาล้าง จะขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานของน้ำ หรือน้ำที่ไหลผ่านเครื่องกรอง รวมถึงความกระด้างของน้ำ)