top of page

คราบสนิมบนผ้า

Updated: Feb 19, 2019

หลายๆ ครั้งผู้ซักมักเจอปัญหาคราบสนิมบนผ้าเสื้อผ้า ไม่ว่าจะติดมาจากซิปโลหะ, กระดุมเหล็ก, ไม้แขวนเสื้อเหล็ก หรืออาจจะเดินไปชนเหล็กที่ขึ้นสนิมอยู่ก็ตาม ซึ่งคราบสนิมไม่สามารถซักออกด้วยการซักตามปกติ ซึ่งก่อนก่อนที่จะมาพูดถึงวิธีการขจัดคราบสนิมบนผ้า ขอกล่าวถึงก่อนว่า คราบสนิมคืออะไร และเกิดขึ้นจากอะไร


คราบสนิมคืออะไร?

คราบสนิม

สนิม เกิดจากการทำปฏิกิริยากันระหว่าง ออกซิเจนและธาตุเหล็ก เกิดขึ้นเมื่อมีเหล็กสัมผัสกับน้ำและความชื้น โดยจะค่อย ๆ สึกกร่อน กลายเป็นเหล็กออกไซด์ มีชื่อทางเคมีว่า ไฮเดรตเฟอริกออกไซด์ หรือที่เรารู้จักกันว่า สนิมเหล็ก (Fe2O3.XH2O3) มีลักษณะเป็นคราบสีแดง ซึ่งไม่สามารถเกาะอยู่บนผิวของเหล็กได้อย่างเหนียวแน่น สามารถหลุดออกออกไปได้ง่าย นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้สนิมหลุดติดมาเกาะบนผ้าทำให้เกิดรอยคราบสนิมโดยง่าย


ขจัดคราบสนิมอย่างไร?

สำหรับวิธีการขจัดคราบสนิมออกนั้นจะต้องใช้กรดในการขจัด เนื่องจากตัวสนิมเหล็กนั้นพ่ายแพ้ต่อกรด ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงแนะนำวิธีการใช้มะนาว หรือน้ำส้มสายชู โดยมีวิธีการดังนี้


คราบสนิมบนผ้า
Picture from Instructable.com

1. ขจัดคราบสนิมบนเสื้อ ด้วยน้ำส้มสายชูและเกลือ เพียงวางผ้าบริเวณที่เปื้อนคราบสนิมลงบนผ้าสะอาด อาจจะเป็นผ้าขนหนูก็ได้นะคะ จากนั้นโรยเกลือลงไปบนคราบให้ทั่ว แล้วเอาสำลี หรือผ้าสะอาดผืนเล็กๆ ที่ชุบน้ำส้มสายชูจนชุ่ม ถู ลงบนคราบสนิม เสร็จแล้วก็เอาออกไปตากแดดจัดๆ แล้วค่อยนำไปซักตามปกติ (เกลือช่วยเพิ่มความเป็นกรดให้กับน้ำส้มสายชู ซึ่งทำให้สามารถขจัดคราบสนิมได้เร็วขึ้น)


2. น้ำมะนาวและ เกลือ เช่นเดียวกับวิธีข้างบน คือวางผ้าบริเวณที่เปื้อนคราบสนิมลงบนผ้าสะอาด จากนั้นโรยเกลือลงไปบนคราบ แล้วใช้มะนาวซีกที่หั่นไว้แล้วมาถูลงไปบนเกลือ น้ำมะนาวจะช่วยกำจัดคราบสนิมออกจากผ้าของเราได้ เสร็จแล้วก็เอาออกไปตากแดดให้แห้งพร้อมกับผ้าที่รองอยู่ด้านล่างด้วย แล้วค่อยนำไปซักเช่นเดียวกัน


และวิธีต่อไปคือใช้ผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทฯ ซึ่งก็คือ ตัวขจัดคราบสนิม โดยมีวิธีการใช้ดังนี้

  1. นำเสื้อผ้าที่พบรอยสนิมมาพรมน้ำ

  2. แต้ม ตัวขจัดคราบสนิม ลงบนผ้าให้ทั่วบริเวณที่เปื้อนสนิม ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาทีแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดทันที หลังจากนั้นนำไปซักทำความสะอาดตามปกติ

เพียงเท่านี้คราบสนิมบนเสื้อผ้าก็จะหายไป


#คราบสนิมบนผ้า #คราบสนิมเกิดจาก #ขจัดคราบสนิม


Source:

www.breeze.co.th/

41,162 views0 comments
bottom of page